>> อ่านตอนแรก
>> อ่านตอนที่แล้ว



หลังจากตอนที่แล้วที่โทโทริได้เลื่อนขั้นเป็นนักผจญภัยขั้นที่ ๖

ช่วงระหว่างขั้นที่ ๖ จนไปถึงขั้นที่ ๗ นั้นค่อนข้างสำคัญและต้องใช้เวลามากเนื่องจากหากได้เลื่อนขั้นครั้งนี้ก็จะได้ต่ออายุใบอนุญาตนักผจญภัย


ตอนนี้สามารถชวนมาร์คมาร่วมเดินทางได้จึงลองชวนดูเป็นครั้งแรก เริ่มมาเขาจะเลเวลค่อนข้างน้อยแค่ ๑๕ ตามพวกโทโทริไม่ค่อยทัน ต้องพาไปฝึกเลเวลก่อน



ทำอาวุธดีๆให้ใช้ก็เป็นอะไรที่ช่วยได้



คราวนี้เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านอาลันยาอีกรอบ ระหว่างทางถือโอกาสต่อสู้เพื่อเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ มาร์คยังเลเวลน้อยแต่ก็เก่งไม่ใช่เล่นเลย



ที่ฉากทุ่งหญ้าสมุนไพร (薬草野原) เป็นแหล่งเก็บเลเวลที่ดีมาก เพราะเต็มไปด้วยมันดราโกรา (マンドラゴラ) และปุนิเขียว (緑ぷに)



ตอนนี้ไม่มีแมร์เวียอยู่คนที่ดูโดดเด่นสุดเลยเป็นมิมิ



เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านอาลันยามิมิก็แวะเข้ามาที่บ้านด้วยกัน พอเซซีบอกว่าจะทำกับข้าวให้ทานมิมิก็บอกว่าอยากขอไปช่วยด้วย ดูเหมือนว่ามิมิจะชอบเซซีมาก



พอไปที่ร้านเหล้าจะพบว่าเซซีกับแมร์เวียกำลังดื่มเหล้าเมาอยู่ ดูเหมือนว่าเกราร์ดจะเลี้ยงเหล้าพวกเธอก็เลยดื่มกันจนเมา แมร์เวียสลบไปเรียบร้อยแล้ว เกราร์ดบอกว่าให้ช่วยห้ามเซซีให้ทีเพราะเธอดื่มไป ๔๐ กว่าแก้วแล้ว



พอกลับมาที่บ้านอีกทีเซซีก็บอกว่าให้ไปที่ท่าเรือตามคุณพ่อมากินข้าวด้วย พอไปถึงท่าเรือก็เห็นเขากำลังตกปลาอยู่กำลังได้ตัวใหญ่ แต่พอตกขึ้นมาปรากฏว่านั่นคือโรโรนา



เธอบอกว่าหลงทางไหลตามน้ำมาจากแถวๆป่าหอยเม่นแล้วลอยมาถึงนี่ พอโทโทริเล่าให้ฟังว่าเธอเป็นนักผจญภัยเพื่อที่จะออกตามหาแม่โรโรนาก็ตัดสินใจว่าจะขอร่วมมือด้วย แล้วก็บอกว่าจะกลับไปรออยู่ที่เมืองหลวงอาร์แลนด์ จากนั้นเธอก็หายตัวไปทันที

จากนั้นสแตร์คมาหาที่อาเตอลีเย พอโทโทริลองถามถึงอัสทริดเขาก็มีท่าทีตกใจอย่างมาก เหมือนเป็นเรื่องที่ไม่อยากพูดถึง ดูเหมือนทั้งคูเดเรียทั้งสแตร์คจะมีปัญหากับอัสทริดเป็นอย่างมาก เรื่องราวเป็นอย่างไรเคยเกิดอะไรขึ้นบ้างต้องกลับไปดูในภาคแรกเอา



ออกมาที่ลานกว้างกลางหมู่บ้านอีกทีก็จะเจอกับมาร์ค ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจอย่างมากเลยที่รถม้าที่นี่ช้ามากก็เลยอยากช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็เลยสั่งให้โทโทริไปหาเพียวร์ออยล์ (ピュアオイル) และหินเด้งได้ (弾む石) มาให้อย่างละอัน



แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญมากเลยปล่อยผ่านไปก่อน ยังไงดูท่ามาร์คจะไม่ยอมขยับไปไหนจนกว่าจะเอาของมาให้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันก็ตาม ตอนนี้โทโทริอยากออกไปผจญภัยข้างนอกมากกว่า


ช่วงนี้เปลี่ยนสมาชิกร่วมเดินทางจากมาร์คเป็นจีโน พอออกไปครั้งนี้จีโนจะพูดถึงว่าอยากจะมีท่าไม้ตายไว้ใช้บ้างแต่คิดไม่ออกก็เลยให้โทโทริช่วยคิดให้ ทำให้โทโทริต้องเก็บไปคิด



พวกโทโทริออกเดินทางมาถึงฉากหมู่บ้านที่ถูกลืม (忘れられた村) นี่เป็นหมู่บ้านร้างที่ไม่มีใคร มีแต่ผีกับแพะ เป้าหมายที่มาครั้งนี้ก็เพื่อจะมาหาวิญญาณแห่งโลก (世界霊魂) เพราะเป็นวัตถุดิบสำคัญ



และอย่างน้อยก็ได้ถือโอกาสฝึกเลเวลจีโนไปด้วยจากที่ตอนแรกไม่ได้พาออกมาสู้นานจนเลเวลโดนโทโทริทิ้งห่างไปไกล



พอกลับมาครั้งนี้มิมิก็มาเยี่ยมถึงบ้านและทานข้าวด้วยกันอีกแล้ว ตอนเธอออกจากบ้านไปก็บ่นว่าอิจฉาครอบครัวที่เป็นแบบนี้จัง แต่ก็นึกได้ว่าบ้านนี้ไม่มีแม่อยู่ด้วย



วันต่อมาออกมาที่ลานกว้างก็พบว่าชาวบ้านกำลังพูดถึงกันว่ามีเรือถูกเฟราชเตราท์ (フラウシュトラウト, Fraustraut) งูยักษ์แห่งท้องทะเลเล่นงานเข้าเลยเดือดร้อนใหญ่ แต่เพเตอร์บอกโทโทริว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะยังไงเธอก็ไม่เคยนั่งเรืออยู่แล้ว



จากนั้นโทโทริก็นึกถึงเรื่องที่จีโนให้ช่วยคิดท่าไม้ตายให้แต่ก็ยังนึกไม่ออกก็เลยเกิดความคิดว่าน่าจะทำดัมเบลให้ไปฝึกพิเศษ ก็เลยทำการผสมดัมเบลฝึกนักผจญภัย (冒険者養成アレイ) ขึ้นมา โดยใช้โลหะเข้ารูป (インゴット) กับน้ำยาขัด (研磨剤) อย่างละ ๒ อัน



ตอนที่ทำเสร็จก็จะพบว่าเกราร์ดมาหาที่บ้านและกำลังคุยกับกวีดและเซซี ดูเหมือนเขาอยากรบกวนให้กวีดช่วยซ่อมเรือให้ แต่พอโทโทริเข้าไปจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็โดนเซซีไล่ออกมา ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นแต่พวกเขาไม่อยากให้โทโทริต้องมากังวลไปด้วย



จากนั้นเอาดัมเบลฝึกนักผจญภัยไปให้จีโน ตอนแรกจีโนก็ทำท่างงๆว่าเอามาให้ทำไม แต่สุดท้ายก็เข้าใจว่าท่าไม้ตายไม่ใช่สิ่งที่จะให้คนอื่นคิดให้แต่ต้องฝึกฝนด้วยตัวเองต่างหาก



เมื่อเอาวิญญาณแห่งโลกมาเป็นวัตถุดิบก็จะสามารถสร้างรองเท้าของนักเดินทาง (旅人の靴) ได้ หากพกรองเท้านี้ติดตัวเวลาออกผจญภัยจะทำให้เวลาในการเดินทางลดลงช่วยประหยัดเวลาได้มาก



วันหนึ่งมิมิเข้ามาหาที่อาเตอลีเยอีกครั้ง โทโทริเกิดสงสัยว่าทำไมมิมิเข้ามาหาบ่อยจังเธอไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยหรือ เธอจึงตอบว่าเพื่อนไม่จำเป็นหรอก



อุปกรณ์อีกอย่างที่สามารถปรุงขึ้นได้ที่นี่ก็คือถุงมือเร็วเป็นเท่าตัว (倍速手袋) ถ้าพกติดตัวไว้แล้วตอนที่ออกไปเก็บไอเท็มจะช่วยประหยัดเวลาในการเก็บได้



หลังจากห่างหายไปนานโทโทริก็เพิ่งจะเอาเพียวร์ออยล์กับหินเด้งได้มาให้มาร์ค (ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยังคงรออยู่ ที่จริงเวลามันผ่านมาตั้งเกือบ ๒ เดือนแล้วจากตอนแรก) พอเขาได้ของไปก็ทำการซ่อมรถม้าทันที ทำให้ต่อจากนี้การเดินทางด้วยรถม้าเพื่อไปกลับระหว่างเมืองหลวงอาร์แลนด์กับหมู่บ้านอาลันยาใช้เวลาลดลงเหลือเพียง ๘ วันเท่านั้น



พอดีว่าตอนนี้กำลังต้องการกลับไปที่เมืองหลวงอาร์แลนด์อยู่เหมือนกัน แต่เนื่องจากตอนนี้โทโทริได้รองเท้าของนักเดินทางมาแล้วทำให้การเดินเท้าก็ใช้เวลาลดลงเช่นกันเหลือแค่ ๑๒ วันซึ่งไม่ต่างกันมาก ดังนั้นจึงยังคงไม่จำเป็นต้องอาศัยรถม้า อีกอย่างเดินเท้าไปสามารถแวะเก็บวัตถุดิบและสู้มอนสเตอร์ระหว่างทางได้ ไม่เสียเวลาเปล่า

ระหว่างทางโทโทริพูดถึงเรื่องที่สแตร์คมาหาที่อาเตอลีเย จีโนบอกว่ารู้สึกสนใจในตัวสแตร์คมากและบอกว่าคราวต่อไปถ้าเขามาอีกช่วยบอกด้วย อยากจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย



เมื่อกลับมาถึงอาร์แลนด์จะพบว่าโรโรนากำลังรออยู่ เธอพาไปที่อาเตอลีเยด้วยกัน ซึ่งจะพบว่าเธอได้เตรียมหม้อปรุงยาไว้ให้อีกใบ จากนี้ไปจะใช้ชีวิตด้วยกัน ตั้งแต่นี้ไปสามารถชวนโรโรนาออกไปผจญภัยด้วยได้



เลเวลของโรโรนาเริ่มต้นคือ ๒๕ ซึ่งน้อยกว่าพวกโทโทริในตอนนี้เล็กน้อย



เมื่อโทโทริลองเริ่มจะใช้หม้อผสมไอเท็มเป็นครั้งแรกโรโรนาจะเข้ามาขอช่วย แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอช่วยกันทำแล้วของที่ออกมาก็กลายเป็นพายตลอด สมเป็นโรโรนาจริงๆ จนโทโทริต้องบอกว่าไม่ต้องมาช่วยจะดีกว่า



ระหว่างนั้นมาร์คมาหาที่อาเตอลีเยและเจอทั้งสองคน ดูเหมือนว่าโรโรนาเองก็รู้จักมาร์คด้วย เธอพยายามจะเรียกเขาว่าคุมะ (くま) ซึ่งแปลว่าหมี เพราะฟังดูคล้ายๆกัน แต่ก็โดนปฏิเสธอย่างแรง โรโรนามีนิสัยชอบตั้งชื่อเล่นให้คนอื่นมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว



ช่วงที่โรโรนาออกไปซื้อของข้างนอกคูเดเรียเข้ามาเยี่ยมเพื่อถามว่าเป็นยังไงบ้าง สักพักโรโรนาก็กลับมาพอดี แล้วเธอก็เรียกคูเดเรียว่าคูจัง โทโทริเห็นว่าน่ารักดีเลยอยากเรียกบ้างแต่ถูกห้าม บอกว่าคนที่เรียกคูจังได้มีแค่โรโรนาคนเดียวเท่านั้นเพราะเป็นคนพิเศษสำหรับเธอ โทโทริเริ่มรู้สึกอิจฉาโรโรนาที่มีเพื่อนวัยเด็กเป็นเด็กผู้หญิงด้วยกัน



วันหนึ่งโทโทริถามโรโรนาถึงเรื่องที่สงสัยมานานว่าทำไมตู้เก็บของที่อาเตอลีเยของโรโรนาถึงได้เชื่อมต่อกับของที่อาเตอลีเยของโทโทริที่หมู่บ้านอาลันยา โรโรนาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจยาก ไว้โทโทริฝึกวิชาจนเก่งกว่านี้แล้วค่อยบอก
(แต่ความจริงแล้วมันคงไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษ แค่คนสร้างเกมอยากจะให้มันไม่วุ่นวาย)

ต่อมาโรโรนาจะบ่นว่าหลังจากที่สอนวิชาให้ตอนแรกสุดแล้วตัวเองก็ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรที่สมกับเป็นอาจารย์เท่าไหร่เลย ก็เลยมอบตำราทำพายด้วยการเล่นแร่แปรธาตุให้โทโทริ จากเนื้อเรื่องภาคที่แล้วจะรู้ว่าโรโรนาพยายามมามากแค่ไหนเพื่อที่จะสำเร็จวิชาปรุงพายจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุ แถมยังคิดพายสูตรแปลกๆเฉพาะของตัวเองขึ้นมามากมาย ไม่แปลกที่เธอจะอยากถ่ายทอดวิชาให้โทโทริ



เมื่อไปที่กิลด์นักผจญภัยโทโทริได้ถามคูเดเรียถึงเรื่องมิมิว่าไม่ชอบเธอหรือ เพราะตอนที่เจอกันทีแรกเหมือนจะทะเลาะกัน เธอก็บอกว่าไม่ได้ไม่ชอบแค่เธอมาอวดเรื่องที่เป็นลูกผู้ดี โทโทริบอกว่าไม่ค่อยเข้าใจความคิดของมิมิเลย คูเดเรียเลยตอบเหมือนรู้ความคิดของมิมิว่าคนแบบมิมิน่ะเวลาที่อายก็จะทำเป็นโกรธเพื่อกลบเกลื่อน จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอก (ที่คูเดเรียรู้เพราะเธอเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ตั้งแต่ภาคที่แล้ว)



จากนั้นพอโทโทริไปคุยกับมิมิดูเพื่อดูว่าเธอโกรธหรือเปล่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้โกรธอยู่ มิมิพยายามจะขอโทษเรื่องที่ผ่านมาแต่พูดเสียงเบา พอโทโทริบอกว่าได้ยินไม่ถนัดเธอก็โกรธขึ้นมาอีกแล้ว



พอหันไปคุยกับฟิลลีในจังหวะนั้นมิมิก็เข้ามาแทรกพอดีจนฟิลลีเริ่มทำตัวไม่ถูก พอฟิลลีชมโทโทริว่าทำงานได้ดีมากมิมิก็อยากได้รับคำชมบ้างเลยเกิดฮึดอยากพยายามสร้างผลงานขึ้นมาบ้างเลยรับงานมากมาย



ช่วงนี้หากไปคุยกับมาร์คที่ซอยข้างบ้านเขาก็จะชวนไปห้องทดลองของเขาที่บ้าน แต่พอเขาบอกว่าที่นั่นมีแมลงประหลาดมากมายโทโทริก็ขอบายทันที



แล้วผลจากการผสมไอเท็มและส่งเควสไปเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมานี้ไม่นานก็ได้เลื่อนขั้นเป็นขั้นที่ ๗ ในที่สุด



เท่านี้ก็สามารถต่ออายุใบอนุญาตนักผจญภัยได้แล้ว เพียงแต่ว่าจะต้องรอจนสิ้นสุดปีที่ ๓ ระหว่างนั้นต่อให้สะสมแต้มแค่ไหนก็จะยังไม่สามารถเลื่อนขั้นได้

กว่าจะมาได้ถึงขั้นนี้ก็ใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย แต่การผจญภัยของโทโทริจากนี้ไปก็จะยังคงยาวไกลต่อไปเรื่อยๆ การกลับมาปรากฏตัวของโรโรนาทำให้เรื่องราวดูมีสีสันขึ้นมาไม่น้อย



>> อ่านตอนต่อไป