>> อ่านตอนแรก
>> อ่านตอนที่แล้ว




หลังจากที่โทโทริได้ต่ออายุใบอนุญาตนักผจญภัยแล้วจังหวะนั้นมิมิเข้ามาแล้วเห็นพอดีจึงขอดูใบอนุญาต พอพบว่าโทโทริขั้นสูงกว่าตัวเองก็ไม่พอใจ คุยไปคุยมาก็ทะเลาะกัน ในที่สุดมิมิก็หนีไป ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถชวนมิมิออกไปไหนได้ แต่คูเดเรียซื่งเห็นเหตุการณ์ก็บอกว่าเดี๋ยวเธอจะช่วยหาทางพูดกับมิมิให้เอง



หลังจากนั้นโทโทริได้ทำการเลื่อนขั้นต่อเป็นขั้นที่ ๘ ทันที เนื่องจากได้เก็บสะสมแต้มค่าประสบการณ์มาตั้งแต่ช่วงก่อนต่ออายุใบอนุญาตแล้ว จังหวะที่เลื่อนขั้นนั้นจีโนก็เข้ามาหาพอดี พอขอดูใบอนุญาตก็พบว่าขั้นสูงกว่าตัวเองอีก แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร ไม่เหมือนมิมิ จนทำให้โทโทริรู้สึกโล่งใจ



ของรางวัลอย่างหนึ่งที่ได้มาจากการเลื่อนขั้นเป็นขั้นที่ ๘ ก็คือน้ำแห่งชีวิต ซึ่งสามารถนำมาใช้้สร้างโฮมุนคูลุสได้อีกตัว คราวนี้โทโทริตั้งชื่อให้ว่าจิมิวมิวมิว (ちみゅみゅみゅ) หลังจากก่อนหน้านี้มีชื่อว่าจิมิวกับจิมิวมิวมาแล้ว โรโรนาได้ยินชื่อของแต่ละตัวก็เกิดรู้สึกหดหู่ขึ้นมา เพราะเธอแพ้ชื่อยาวๆ



ไม่กี่วันต่อมามิมิมาแอบมองโทโทริอยู่จากหน้าต่างอาเตอลีเย โรโรนาเข้ามาเห็นเข้าเลยพยายามบอกให้รีบคืนดีกัน มิมิบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้ ขอเวลาอีกสักพักจะกลับมาคืนดีเอง



หลังจากนั้นโทโทริออกไปข้างนอกพร้อมกับสแตร์ค แต่อยู่ดีๆนกพิราบของสแตร์คก็เข้ามาแล้วแจ้งข่าวว่าพบอดีตกษัตริย์ที่เขาตามหาอยู่แล้ว สแตร์คจึงขอออกไปหาทันทีเพราะไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป เมื่อสแตร์คจากไปโทโทริจึงไม่อยากไปไหนต่อจำต้องเดินทางกลับเมืองไป



เมื่อกลับมาถึงโรโรนาได้ให้คู่มือการสร้างไอเท็มขึ้นมาอีกอย่าง เป็นคู่มือการสร้างระเบิดชนิดร้ายแรงและบอกให้โทโทริใช้อย่างระวังด้วยเพราะมันอันตรายมาก ถึงอย่างนั้นเธอก็ไว้ในโทโทริจึงยอมให้ อุปกรณ์พวกนี้ไม่ปรากฏในภาคโรโรนา คาดว่าเธอคงสร้างเป็นแต่ไม่กล้าใช้เองเพราะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมได้ดีพอ



หลายวันต่อมาสแตร์คกลับมาหาที่อาเตอลีแล้วบอกว่าเจออดีตกษัตริย์เล่นงานแพ้ย่อยยับ เขาจึงรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองยังอ่อนหัดอยู่มากต้องฝึกพิเศษเพิ่ม จากนี้ไปก็จะขอคอยช่วยโทโทริต่อไปเพราะการได้ปกป้องใครนั้นเป็นการฝึกฝนที่ดีที่สุด



โทโทริได้ใช้คู่มือที่โรโรนาให้มาสร้าง N/A ขึ้น เป็นระเบิดชนิดรุนแรงมากที่ใช้โจมตีใส่ศัตรูตัวเดียว



โทโทริเข้าไปหาคูเดเรียเพื่อถามเรื่องมิมิว่าเธอเป็นยังไงบ้างแล้ว คูเดเรียก็บอกว่าได้ช่วยพูดกับมิมิให้แล้ว ไม่ต้องห่วง สักพักมิมิก็เข้ามาพอดี พอโทโทริพยายามจะคุยด้วยเธอก็ปฏิเสธ เธอรีบเข้าหาคูเดเรียเพื่อรายงานผลงานและขอเลื่อนขั้น ในที่สุดก็เป็นขั้นเดียวกับโทโทริแล้ว มิมิจึงบอกว่าเท่านี้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทะเลาะกันอีกแล้วขอให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม ต่อจากนี้ไปก็ชวนเธอออกไปผจญภัยได้ตามปกติ



ระหว่างนี้โทโทริได้สร้างเหล้ากลั่นซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่างที่เพิ่มมูลค่า ทำให้ขายได้ราคาถึงขวดละ ๑๘๓ โดยถ้าให้พวกจิมุช่วยผลิตจะใช้เวลา ๒ วัน อาจดูเหมือนน้อยแต่ถ้าปล่อยให้จิมุช่วยหาไปสักปีก็จะได้มาถึง ๓ หมื่นกว่า เป็นวิธีหาเงินแบบง่ายๆที่ไม่ต้องลงแรงอะไรนัก



พอออกเดินทางด้วยกันอีกครั้งมิมิก็จะทักขึ้นมาว่าจะไปหาวัตถุดิบสำหรับทำเรือใช่มั้ย เธอตั้งใจจะให้ความร่วมมือเต็มที่เพราะอยากจะออกทะเลไปด้วยกัน ถ้าจะไปเมื่อไหร่ต้องชวนเธอไปด้วยให้ได้เพราะอยากจะล้มเฟราชเตราท์เหมือนกัน



หลังจากที่ได้ต่ออายุใบอนุญาตและได้เลื่อนขั้นแล้วทำให้สามารถไปยังสถานที่ที่เมื่อก่อนไม่เคยไปได้ แม้จะยังไม่ใช่ขั้นสูงสุดแต่สถานที่ที่ไปได้ตอนนี้คือครบหมดทุกที่บนแผ่นดินนี้แล้ว จากนี้ไปจะเป็นการสำรวจแผ่นดินให้ทั่วก่อนที่จะออกทะเลไปภายหลัง


ที่ฉากบ้านของผู้สันโดษ (世捨て人の家) มีไอเท็มสำคัญอย่างหนึ่งอยู่ในหีบ นั่นก็คือปีกสีพลอยฟ้า (瑠璃色の羽)



หลังจากนั้นเลยต่อไปยังป่าแห่งนอยมอนท์ (ノイモントの森) เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ต้องทำการสำรวจจนทั่ว



ที่นี่ต้องสู้กับกระรอกลูกระเบิดเทรา (テラフラムリス) ซึ่งใช้ลูกระเบิดเทราเป็นอาวุธ อันตรายมากทีเดียว



ปีกสีพลอยฟ้าที่ได้มาจากบ้านของผู้สันโดษนั้นสามารถเอามาใช้สร้างทราเวลเกต (トラベルゲート) ได้ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่เอาไว้ใช้วาร์ปกลับเมือง โดยสามารถกลับไปยังอาเตอลีเยของโทโทริหรือของโรโรนาก็ได้ หมายความว่าถ้าใช้มันก็จะสามารถเดินทางไปกลับระหว่างอาร์แลนด์และอาลันยาได้โดยใช้เวลาแค่พริบตาเดียว ไม่ต้องเดินทางโดยรถม้านาน ๘ วัน หรือเดินเท้านาน ๑๒ วันอีกต่อไปแล้ว ช่วยประหยัดเวลาได้มาก



พอใช้ทราเวลเกตก็เลยเดินทางจากอาร์แลนด์มายังอาลันยาในพริบตา



เมื่อมาถึงหมู่บ้านอาลันยาแล้วเข้าไปที่โรงเหล้าของเกราร์ดไปคุยกับแมร์เวียเธอก็จะบอกว่าอยากชวนเซซีออกไปผจญภัย เพราะจริงๆแล้วเซซีเคยอยากเป็นนักผจญภัยแต่สุดท้ายก็ตัดใจ



วันต่อมาโทโทริและแมร์เวียได้ไปชวนเซซีออกไปผจญภัย ครั้งนี้ไปแค่ที่ราบทางตะวันตก (西方の平原) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ใช้เวลาในการผจญภัยสองวัน



หลังจากที่ไม่ได้ชวนจีโนมานาน คราวนี้โทโทริได้ชวยเขาออกไปพร้อมกับสแตร์ค จีโนดีใจใหญ่ที่จะได้ร่วมสู้กับอาจารย์ แต่สแตร์คกลับดูไม่ค่อยดีใจนัก



พวกโทโทริไปที่แหล่งรวมหินเวทย์ (魔石の巣) อีกครั้ง คราวนี้สามารถสู้กับมอนสเตอร์ที่นี่ได้สบายและสามารถล้มบอสจิวเวลเอเลเมนต์ (ジュエルエレメント) ได้ไม่ยากนัก



เมื่อปราบจิวเวลเอเลเมนต์ได้แล้วเข้ามาด้านในถ้ำลึกต่อก็จะเจอกับก้อนผลึกขนาดใหญ่สวยงามซึ่งใช้เป็นจุดสังเกตได้



พอกลับมาที่อาร์แลนด์ โรโรนาทักขึ้นมาว่าเหมือนจะกำลังงอนว่ารู้สึกเหงาที่หลังๆมานี้โทโทริไม่ได้ชวนเธอไปเลย โทโทโทริรู้สึกได้ว่าโรโรนางอนเหมือนเด็กๆเลย



หลังจากที่ปล่อยให้พวกจิมุช่วยทำเหล้าให้พอไปผจญภัยแล้วกลับมาก็มีเหล้าเต็มคลัง พอเอาไปขายก็ทำรายได้ได้ไม่น้อย



โทโทริได้เดินทางไปสำรวจซากปรักแห่งหมอก (霧の廃墟) ซึ่งมีแท่นบูชาที่พัง



เมื่อกลับมามาร์คก็เข้ามาหาแล้วพูดว่าเตรียมการพร้อมแล้วเวลาไหนว่างให้ช่วยพาไปที่โบราณสถานแห่งสัญญา (約束の遺跡) ด้วยกันที โทโทริไม่รู้ว่ามาร์คกำลังพูดถึงอะไร ถามไปเขาก็ไม่ฟัง สุดท้ายพอพูดจบก็จากไป ปล่อยให้โทโทริงง รู้แต่ว่าให้ชวนเขาไปที่โบราณสถานแห่งสัญญา อย่างไรก็ตามตอนนี้คงยังไม่มีเวลาพาไปจึงเอาไว้ก่อน



จากนั้นสร้างเกเบตอังค์ (ゲベートアンク) เป็นเครื่องประดับที่มีประโยชน์มาก ถ้าใส่ให้คนใดคนหนึ่งก็จะทำให้ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการต่อสู้เพิ่มอีก ๒๐% และยังช่วยเพิ่มพลังป้องกันธาตุด้วย และยิ่งใส่คุณสมบัติพิเศษเสริมพลังป้องกันธาตุให้อีกก็ยิ่งเสริมขึ้นไปอีก แถมถ้าใส่ให้โทโทริซึ่งมีพลังป้องกันธาตุโดยพื้นฐานอยู่แล้วยิ่งเห็นผลชัด



จากที่ครั้งก่อนออกผจญภัยโดยที่ไม่ได้พาสแตร์คไปด้วยทำให้เลเวลของโทโทริสูงกว่าสแตร์คไปแล้ว พอครั้งนี้ชวนสแตร์คออกมาอีกครั้งเขาก็พูดขึ้นมาว่าเขายังมีความจำเป็นจะต้องมาด้วยอีกหรือในเมื่อโทโทริแข็งแกร่งกว่าเขาแล้ว ทำให้รู้สึกหดหู่ขึ้นมา



พวกโทโทริเดินทางไปสำรวจดินแดนแห่งราตรี (夜の領域) ซึ่งเป็นอาณาเขตแห่งความมืดที่ปรากฏตั้งแต่ภาคที่แล้ว ที่มาที่นี่ก็เพื่อจะสำรวจให้ทั่วและเก็บไอเท็มสำคัญบางอย่าง



จากนั้นเลยต่อมาที่บรรลังก์แห่งสายัณห์ (黄昏の玉座)



หยาดแห่งความมืดที่เก็บมาได้จากดินแดนแห่งราตรีสามารถใช้สร้างจอกน้ำบาดาล (湧水の杯) ได้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์หาเงินที่ดีมาก เอาไว้กดใช้แล้วจะมีไอเท็มประเภทน้ำโผล่ออกมา ๕ ชิ้น ที่คุณภาพสูงกว่า ๑๐๐ สามารถกดได้ ๖ ครั้ง ในจำนวนนั้นมีหยาดแห่งความมืด (闇の雫) กับตะกอนใต้ก้นทะเลสาบ (湖底の溜まり) ซึ่งขายได้ราคาพดสมควร สามารถเอาไปขายที่ร้านของพาเมลาแล้วซื้อมาได้ทีละเป็นสิบอัน สามารถทำกำไรได้มากมาย



หลังจากนั้นโทโทริชวนเซซีออกไปผจญภัยพร้อมกับแมร์เวียอีกครั้ง เซซีรู้สึกสนุกมาก เธอดูแข็งแรงสมบุกสมบันมากกว่าที่คิดไว้มาก แต่โทโทริกลับเหนื่อยแทน



หลังจากกลับมาจึงได้ออกผจญภัยอีกครั้ง คราวนี้ชวนแมร์เวียไปพร้อมกับสแตร์คเป็นครั้งแรก โทโทริเพิ่งรู้ว่าทั้งสองคนรู้จักกันด้วย แมร์เวียเล่าให้ฟังว่าสมัยที่เธอไปเป็นนักผจญภัยใหม่ๆได้สแตร์คคอยช่วยเหลือไว้เยอะ รู้สึกขอบคุณมาก แต่สแตร์คกลับพูดอย่างเหนื่อยใจว่าก็แค่ช่วยคอยตามเก็บกวาดสะสางเรื่องวุ่นวายที่เธอก่อเอาไว้เท่านั้นเอง



ครั้งนี้เดินทางไปสำรวจถ้ำบนภูเขา (山の上の洞窟) ซึ่งเป็นดินแดนตกสำรวจจากตอนแรกสุดทั้งที่จริงๆแล้วสามารถไปได้ตั้งนานแล้ว เมื่อสำรวจที่นี่เสร็จก็เท่ากับว่าแผ่นดินทางตอนใต้สำรวจเรียบร้อย



ช่วงนี้ได้สร้างอุปกรณ์สำคัญบางอย่างขึ้นมาใช้ประโยชน์ เช่นเครื่องลางนำโชค (運命の札) ถ้าพกติดตัวไว้จะทำให้โอกาสเจอศัตรูระหว่างเดินทางน้อยลงหรือมีโอกาสเก็บของได้มากขึ้น



และไข่แห่งกาลอวกาศ (時空の卵) เอาไว้ใช้แล้วจะทำให้แต่ละตาโทโทริสามารถโจมตีได้ ๓ ครั้ง แต่ว่าแต่ละครั้งที่ใช้จะผลาญ MP ไปหมดตัวด้วย ทำให้เอาไว้ใช้แค่เวลาสู้กับศัตรูที่เก่งกาจจริงๆ



ต่อมามีโอกาสได้ชวนสแตร์คออกไปพร้อมกับแมร์เวียอีกครั้งโทโทริถามสแตร์คว่าไม่ชอบแมร์เวียหรือ สแตร์คตอบว่าเปล่า แค่ไม่ชอบวิธีการพูดของเธอเท่านั้น ที่จริงชื่นชมความสามารถเธอด้วยซ้ำ และที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่ตกใจกลัวเวลาเห็นหน้าเขา (ซึ่งสำคัญมากสำหรับสแตร์คเพราะเขาน้อยใจที่คนอื่นต่างเห็นหน้าเขาแล้วกลัวกันหมด)



พื้นที่ที่ต้องทำการสำรวจตอนนี้ก็เหลือแค่สองแห่งคือป่าแสงจันทร์ (月光の森) และแดนศักดิ์สิทธิ์ของคนโบราณ (古き者の聖域) ซึ่งที่นั่นได้เจอกับมังกร (ドラゴン)



ไข่แห่งกาลอวกาศได้ใช้ประโยชน์อย่างดี แต่ก็ทำให้ MP หมดทันที โทโทริจึงต้องโจมตีด้วยการใช้ไอเท็มเป็นหลัก



มังกรเป็นคู่ต่อสู้ที่เก่งมากทีเดียว แต่พวกโทโทริตอนนี้เลเวลสูงมากพอที่จะปราบมันได้โดยไม่ลำบากเกินไปนัก



หลังปราบมังกรเสร็จเดินต่อมาก็จะเจอกับแท่นบูชาแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ (聖域の祭壇) เป็นอันจบภารกิจที่มาถึงที่นี่



เมื่อสำรวจแดนศักดิ์สิทธิ์ของคนโบราณเสร็จและปราบมังกรได้แล้วตอนนี้ก็เท่ากับว่าบนแผ่นดินถูกสำรวจหมดเรียบร้อย

แต่การผจญภัยไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เป้าหมายของโทโทริตอนนี้ไม่ใช่บนแผ่นดิน แต่เป็นการออกทะเลเพื่อไปตามหาแม่



>> อ่านตอนต่อไป